SIM2FLY กับ Ready2FLY ต่างกันตรงไหน? เลือกใช้อะไรดี?

SIM2FLY และ Ready2FLY เป็นซิมของค่าย AIS สำหรับใช้งานเน็ต+โทรที่ต่างประเทศ (โรมมิ่งซิม) ข้อดีคือ ทั้ง 2 แพคเกจนี้ใช้งานได้หลายประเทศ ไม่ต้องหาซื้อซิมของแต่ละประเทศเปลี่ยน แล้ว 2 แพคเกจนี้ มีอะไรที่ต่างกัน? ควรเลือกใช้อะไรดี? วันนี้แอดมินมีคำตอบให้ค่ะ

: ข้อแตกต่าง :

: ราคา :

: โทรออก-รับสาย :

: ข้อดี :

: ข้อเสีย :

เลือกใช้ SIM2FLY หรือ Ready2FLY ดี?
จากประสบการณ์ตรงของแอดมิน ที่เคยใช้ทั้ง SIM2FLY และ Ready2FLY สรุปว่า

Ready2FLY เหมาะกับคนที่เป็นลูกค้า AIS อยู่แล้ว เพราะคุณไม่ต้องไปหาซื้อซิมใหม่ ซื้อแพคเกจผ่านแอป MyAIS ได้เลย ชอบสุดก็โปรรับ SMS ฟรี เวลาอยู่ต่างประเทศ โอนเงินหรือทำธุรกรรมอื่นๆที่ต้องยืนยันโดยใช้เบอร์มือถือที่ใช้ประจำสะดวกมาก แต่ต้องระวังเรื่องค่าโรมมิ่งหากใช้ก่อนหรือเกินเวลาที่แจ้งในระบบตอนสั่งซื้อ จะคิดค่าบริการตามจริง ซึ่งแพงมาก และแนะนำว่าก่อนเดินทางควรปิดบริการ โอนสายเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ เพราะถ้ามีคนโทรเข้า ถึงเราไม่ได้รับสาย แต่เราจะเสียเงิน

SIM2FLY เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเปลี่ยนซิม ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เบอร์ที่ใช้ประจำเพื่อติดต่อใคร หรือ
ทำธุรกรรมอื่นๆ เวลาอยู่ต่างประเทศ คุณไม่ต้องห่วงเรื่องค่าโรมมิ่งเพราะเป็นซิมแบบเติมเงิน ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการย้อนหลังแน่นอน แต่มันน่าเบื่อตรงที่ พอไปถึงแทนที่จะใช้เน็ตได้เลย คุณต้องหาที่นั่งเปลี่ยนซิม เราเคยลืมเอาเข็มทิ่มซิมไป เป็นปัญหาชีวิตขึ้นมาทีเดียว โชคดีที่มีเข็มกลัดติดไป และเวลารีบมากๆทำซิมหล่นหายก็เคยมาแล้ว (555) สำหรับมือถือใครที่ใส่ได้ 2 ซิม ก็ต้องระวังเรื่องการสลับใช้ หากไม่ระวัง หลุดไปใช้บริการเบอร์หลัก ทำให้มีค่าใช้จ่ายย้อนหลังตามมาได้เหมือนกัน

ส่วนตัวแล้ว… เราเป็นลูกค้าของ AIS อยู่แล้วเลยชอบใช้ Ready2FLY มากกว่า สะดวกกว่า ไปถึงเปิดโรมมิ่ง เปิดเน็ต รอจับสัญญาณ ใช้งานได้เลย ไม่ต้องหาที่นั่งเปลี่ยนซิม ใช้เน็ตได้ตั้งแต่นั่งอยู่บนเครื่อง และเรายังไม่เคยเจอเรื่องค่าโรมมิ่งย้อนหลัง เพราะจะเผื่อเวลาไว้ ก่อน-หลัง ประมาณ 2 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น (ตอนซื้อจะมีให้เลือก ประเทศที่เดินทาง เริ่มใช้วันไหน เวลากี่โมง หยุดใช้เมื่อไหร่ เวลากี่โมง)

สำหรับคนที่สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บ AIS ค่ะ SIM2FLY | Ready2FLY